
Sky of love “คุณมองท้องฟ้าแล้วคุณคิดถึงอะไร”
เริ่มแรกที่รู้จักก็ทำออกมาเป็นหนังเสียแล้ว บอกตรงๆว่าไม่รู้เรื่องราวมาก่อนรู้เพียงแต่ว่า หนังเรื่องนี้ดังมาก ร้องไห้กันทั้งโรง แม้กระทั่งใบโปสเตอร์หนังยังถามว่า คุณร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่ผู้เขียนเองซื้อ dvd เก็บไว้กะว่าจะดูว่าเป็นอย่างไร แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ดูเสียที จน sky of love ทำออกมาในรูปละครและก็ได้ซื้อไว้แล้ว ขณะนั้นก็ชั่งในว่าจะหยิบอันไหนดูก่อนดีระหว่างละครหรือหนัง แต่สุดท้ายก็เลือกละคร และเป็นการเลือกที่คิดไม่ผิดจริงๆๆ วันนี้ผู้เขียนจะเปรียบเทียบทั้งหนังและละครทีเดียวพร้อมกันเลยน่ะค่ะ
Sky of love เป็นเรื่องราวของมิกะ เด็กสาววัยเรียนอายุ16 ปี เธอไม่เคยมีความรัก จนมาพบกับฮิโรกิหรือฮิโร่เด็กหนุ่มผมสีทองที่มีนิสัยตรงไปตรงมา มันคือรักครั้งแรกของมิกะ เธอปรารถนาที่จะให้รักครั้งแรกของเธอสวยงาม ค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้า ค่อยๆรู้จัก ค่อยๆพัฒนาแต่เธอเองก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจุดไหนคือความต่อเนื่องของความรัก จุดไหนคือความพอดี และนั้นทำให้เธอประสบปัญหาตั้งครรภ์ในวัยเรียน ถึงแม้เธอจะแท้งไปในภายหลังแต่เธอก็ยังคาดหวังว่าความรักของเธอและฮิโร่ะก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแต่แล้วเหมือนสวรรค์แกล้งโรคร้ายต้องมาพรากฮิโร่ะไปจากเธอ...เธอต้องต่อสู้กับการสูญเสียและยิ่งกว่าการสูญเสียคือการปิดบังความลับที่ไม่ให้เธอรู้ (จุดนี้เองที่ทำให้ผู้ชมต้องเสียน้ำตาไปกับความรักของมิกะและความลับที่เสียสละของฮิโร่ะ)
ในภาพรวมของหนังแล้ว ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้เรืองราวดูเร่งรัดและตัดตอนเกินไปหน่อยทำให้เราไม่ค่อยซาบซึ้งถึงความรักที่ฮิโร่ะมอบให้มิกะว่ามากมายขนาดไหนถึงขนาดยอมที่จะบอกเลิกกับเธอเพื่อมาต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง และ ความรักของมิกะเองที่เธอคาดหวังไว้พังทลายลงมาอย่างไม่มีชิ้นดีเมือเธอต้องสูญเสียลูกและเลิกกับฮิโร่ะไป..แต่ในหนังจะเก็บความลับเรื่องโรคร้ายของฮิโร่ะไว้เพียงเพื่อมาเฉลยในตอนหลังของหนังแต่ในขณะที่ละครกลับแสดงถึงการพัฒนาความเป็นไปของชีวิตแต่ล่ะตัวละคร ครอบครัว ของมิกะและฮิโร่ะ และเรื่องราวของความรัก การสูญเสีย การแก้ปัญหา การใช้ชีวิตต่อไป การดำเนินของโรคร้ายของฮิโร่ะ ถือว่าละครทำได้ดีกว่ามากๆๆ คนดูสามารถสัมผัสได้ถึงความรักของครอบครัวมิกะไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อที่รักลูกสาวมาก คุณแม่ที่พร้องจะเสียสละเพื่อนครอบครัวและพี่สาวที่อยู่เคียงข้างน้องสาวเสมอ กับอีกหนึ่งครอบครัวของฮิโร่ะที่พี่สาวรักน้องชายมากที่สุด คุณแม่และคุณพ่อที่เชื่อใจในตัวลูก...และพร้องที่จะต่อสู้โรคร้ายไปพร้อมๆกับลูกชาย....
สำหรับนักแสดงแน่นอนว่าหนังมีภาษีดีกว่าเพราะได้นักแสดงนำหญิงอารากากิ ยูอิ นักร้องและนักแสดงวัยรุ่นที่ดังในญี่ปุ่นมานับบทมิกะและมิอุระ ฮารุมะ มารับบทฮิโรกิ (ฮิโร่ะ) และนักแสดงรับเชิญ โคอิเดะ เคซึเกะ จาก love and farm มารับบท ยู แค่เพลงประกอบ heaven ก็ติดชาร์ตทุกสถานีวิทยุ ส่วนในละคร ได้ เอเรน่า มิซูซาว่า มารับบท มิกะ และเซโต โคจิ รับบท ฮิโร่ะ และ มัทสูดะ โชตะ รับบทยู ว่ากันแล้ว ในหนังจะเน้นนางเอกมากกว่าเห็นหน้าใสๆของน้องเค้าชัดเจนทุกช็อตในขณะที่พระเอกต้องเพ่งแล้วเพ่งอีก เพื่อมองหาความหล่อที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ผมสีทอง(เราว่าตอนใส่หมวกหล่อกว่าเยอะ) ในละครถือว่ารูปร่างของ เอเรน่า มิซูซาว่า นั้นเหมาะกับบทมาก บอบบาง ควรค่าแก่การได้รับการปกป้องจากครอบครัวและฮิโร่ะมากๆๆ และเซโต โคจิ ก็เล่นได้ดีไม่ขาดไม่เกินจนดูเวอร์เกินไป แต่มาสะดุดกับตัวละครยูมากกว่า มัทสูดะ โชตะที่รับบทยูในละครเราไม่อินไปกับเค้าเพราะภาพลักษณ์ของยูนั้นจิดใจดี เป็นผู้ใหญ่ มั่งคง อบอุ่น(เป็นผู้ชายที่หาไม่ได้ในโลกใบนี้) ซึ่งเหมาะกับโคอิเดะ เคซึเกะ มากกว่ามัทสูดะ โชตะที่ออกจะดูแนวเพลย์บอย ไม่เอาถ่าน ไม่น่าเชื่อถือ ดูแอบร้ายหน่อยๆด้วย ดังนั้นเราจึงคิดว่าบทของยูในหนังดีกว่ามาก(จนทำให้เกิดความลังเลเล็กน้อยว่าจะเลือกใครดีน่า...^0^)
โดยรวมแล้ว sky of love ต้องการจะอกอะไรเรา...น่าจะเป็นเรื่องความรักของครอบครัวซึ่งจะเด่นมากในละคร ทั้งครอบครัวของมิกะและของฮิโร่ะ ทำให้เข้าใจความรู้สึกของคุณพ่อมิกะว่าท่านเสียใจและช็อคขนาดไหนเมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักตั้งครรภ์ในวัยเรียนด้วยวัยเพียง 16 ปี ครอบครัวเป็นอย่างไรลูกก็ย่อมเป็นอย่างนั้น ครอบครัวสำคัญที่สุดแม้มิกะจะรักฮิโร่ะมากแต่เธอก็ไม่ได้ละเลยความรักที่เธอมีให้ครอบครัวเลย ชอบบทที่ยูพูดว่า “เด็กอย่างมิกะหายากมากในสังคมญี่ปุ่นที่จะรักครอบครัวแบบนี้” ความตายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าแต่นั้นก็เป็นกฏของมนุษย์มันอยู่ที่เราเลือก...คนที่กำลังจะตายจะทำอะไรเพื่อคนที่เรารักและคนที่สูญเสียจะทำอะไรในการดำรงชีวิตต่อ ฮือ...น่าคิดน่ะ เหมือนดั่งประโยคที่ว่า “คุณมองท้องฟ้าแล้วคุณคิดถึงอะไร”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น